จากข่าวที่คณะกรรมการควบคุมยาเสพติดเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องการนำกัญชาและกัญชงออกจากรายชี่อยาเสพติดให้โทษในประเภท 5 ก่อนจะเสนอให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดพิจารณาในวันที่ 25 ม.ค.2565 นี้ หากร่างดังกล่าวได้รับการอนุมัติจะส่งผลให้ “กัญชาไม่เป็นยาเสพติด” อีกต่อไปแต่สารสกัดจากกัญชายังถือว่าเป็นยาเสพติด รายละเอียดต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้
- พืชกัญชาและทุกส่วนของพืชกัญชาจะไม่ได้ถูกระบุเป็น “ยาเสพติด”อีกต่อไป
- การครอบครองหรือการค้าจะไม่มีโทษทางกฎหมาย ยกเว้นการปลูกเพื่อการอุตสาหกรรมยังคงต้องได้รับการอนุญาต
- สารสกัดยังถือเป็นยาเสพติด โดยสารสกัดทุกส่วนของพืชกัญชาหรือกัญชง ยังถือเป็นยาเสพติดประเภทที่ 5 ยกเว้นสารสกัดจากพืชกัญชาและกัญชงจากพื้นที่ ๆได้รับอนุญาตปลูกในประเทศเท่านั้นและต้องมีปริมาณสาร THC ไม่เกิน 0.2% และสารสกัดจากเมล็ดกัญชาและกัญชงจากการปลูกในประเทศไม่ถือเป็นยาเสพติดให้โทษ
- ดังนั้น ผู้ที่ครอบครองทุกส่วนของกัญชาจะไม่ถูกจับกุม แต่ผู้ที่ครอบครองสารสกัดกัญชาที่มีTHCเกิน 0.2% ถือว่าผิดกฎหมาย
- สารสกัดกัญชาที่มีTHCเกิน 0.2% สามารถนำไปใช้ได้ทางการแพทย์และการวิจัยจากองค์กรที่ได้รับอนุญาต
- แม้กัญชาจะไม่ได้ระบุเป็นยาเสพติดแล้ว แต่ยังมีการควบคุมเช่นเดียวกับยาสูบและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แต่ไม่ได้ควบคุมในฐานะยาเสพติด
- ต่อไปจะมีการนำเสนอร่างกฎหมายมาควบคุมเช่นเดียวกับกระท่อม ซึ่งจะควบคุมเฉพาะที่ปลูกในประเทศ ส่วนที่มาจากต่างประเทศยังถือเป็นยาเสพติดต้องห้าม
ข้อสรุปข้างต้นจากร่างประกาศดังกล่าวยังคงต้องได้รับการอนุมัติจากคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดพิจารณาในวันที่ 25 ม.ค.2565 นี้ หากได้รับการอนุมัติจะเป็นอำนาจของ นายอนุทิน ชาญวีรกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในการลงนามประกาศใช้
Source: Bangkok Biz News/ Thairath