CBD ถือเป็นอุตสาหกรรมใหม่ที่แตกต่างจากอุตสาหกรรมอื่น โดยเฉพาะการที่สารนี้เพิ่งจะถูกกฎหมายในสหรัฐอเมริกามาเพียง 3 ปี ซึ่งหลายประเทศก็เริ่มปรับกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกัญชารวมถึงประเทศไทย ในปี 2020 การซื้อขาย CBD ในสหรัฐมีมูลค่าถึง 4.6 พันล้านยูเอสดอลลาร์จึงถือเป็นอุตสาหกรรมที่มาแรงมากในช่วงไม่กี่ปีมานี้
นิตยสาร Forbes คาดการณ์เทรนด์ CBD ในสหรัฐในปี 2022 ดังนี้
1. CBD จะกลายเป็นธุรกิจใหญ่ที่มีความหลากหลายมากขึ้นในเรื่องของผลิตภัณฑ์ เนื่องจากมีการค้นพบสารประกอบแคนนาบินอยด์ตัวอื่น ๆ นอกจาก THC และ CBD ที่เป็นที่รู้จักกันดีและตลาดในอนาคตจะมีการใช้สารประกอบตัวอื่นมากขึ้น เช่น CBN CBG Delta-8THC
2. มีการปรับแก้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับกัญชามากขึ้นในแต่ละรัฐในสหรัฐอเมริกา รวมถึงในอีกหลายประเทศทั่วโลกเพื่อตอบสนองความต้องการผลิตภัณฑ์กัญชาทางการแพทย์และการสันทนาการ
3. ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่จะเริ่มมีผลิตภัณฑ์ CBD ขายซึ่งจะเป็นการกระตุ้นยอดขายและส่งผลดีต่อห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมกัญชา Forbes คาดการณ์ว่า CBD จะได้รับความนิยมมากขึ้นและจะเข้าสู่กระแสหลัก ในปี 2022จะมีผลิตภัณฑ์ CBD เพิ่มมากขึ้นในหลายหมวดหมู่และลักษณะการใช้งาน ทั้งหมดนี้จะขยายตลาดและจะเป็นประโยชน์กับเกษตรกรเพราะราคาของกัญชาดิบจะสูงขึ้น ด้านการวิจัยจะมีการแข่งขันกันมากขึ้นในการค้นพบและพัฒนาสารประกอบในผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อออกผลิตภัณฑ์ใหม่
4. กลุ่มบริษัทยักษ์ใหญ่จะเริ่มเข้าสู่อุตสาหกรรมกัญชามากขึ้นผ่านการซื้อกิจการ Forbes คาดการณ์ว่าเมื่อกฎหมายที่เกี่ยวข้องเริ่มชัดเจน กลุ่มบริษัทใหญ่จะเริ่มขยายฐานผลิตภัณฑ์ของตนโดยการใส่ CBDหรือการออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่ใส่ CBD นอกจากนี้จะมีการซื้อกิจการบริษัท CBDที่มีอยู่ในตลาดอยู่แล้ว
5. การพัฒนาเรื่องการศึกษา การวิจัยและคุณภาพของผลิตภัณฑ์จะสูงขึ้น เมื่อ CBD เริ่มเข้าสู่กระแสหลักการศึกษา การวิจัยและการพัฒนา (R&D)เกี่ยวกับกัญชาจะเพิ่มมากขึ้นเพื่อเป็นการตอบสนองความต้องการของตลาดบริษัทต่างๆจะแข่งกันในเรื่องของคุณภาพซึ่งจะเป็นผลดีต่อผู้บริโภค
ที่มา: Carr, E. (31 December 2021). What You Need To Know About Cannabis in 2022 and Beyond. Forbes. Available from: https://www.forbes.com/sites/earlcarr/2021/12/31/cannabis-not-santa-is-coming-to-town/?sh=6aabc97330c1.